วันพฤหัสบดีที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

เรื่องแมวกับหนู

นิทานอีสป เรื่องแมวกับหนู

บ้านหลังหนึ่งมีหนูชุกชุมมาก เจ้าของบ้านจึงนำแมวมาเลี้ยงไว้

เจ้าแมวขยันไล่จับหนูกินทุกวันจนลดจำนวนลงไปทีละตัว ๆ
ด้วยความกลัวว่าจะถูกกินเป็นรายต่อไป…
พวกหนูจึงพากันเก็บตัวเงียบไม่ออกมาจากรูที่พวกมันอาศัยอยู่

แมวเฝ้ารอจับหนูอยู่หลายวันแต่ไม่เห็นหนูวิ่งเพ่นพ่านก็แปลกใจ
จึงวางแผนแกล้งนอนนิ่ง ๆ ซ่อนเล็บแหลมคมไว้มิดชิด
ทำทีว่าตายเป็นซากไร้วิญญาณให้พวกหนูตายใจจะได้ออกจากที่ซ่อนแล้วจับกิน

นิทานอีสปสั้นๆ_แมวกับหนู
หนูตัวหนึ่งเมื่อเห็นเช่นนั้นจึงร้องออกมาว่า
“เฮ้อ…คุณผู้หญิงผู้แสนดี…แม้ว่าท่านจะมีความสามารถพิเศษ…
นอนนิ่งได้นานแสนนาน…พวกเราก็จะไม่มีวันเข้าไปใกล้…ตัวเจ้าเด็ดขาด”

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
1). “คนฉลาดย่อมไม่ประมาทหลงกลอุบาย”
2). “จงหลีกเลี่ยงสภาวะที่เป็นอันตรายทั้งปวง”

เรื่องเม่นกับงู

นิทานอีสป เรื่องเม่นกับงู

กาลครั้งหนึ่ง มีเม่นอยู่ตัวหนึ่ง กำลังเดินหาที่พักที่อยู่อาศัยมันเดินไปจนพบที่อยู่ของงู จึงของูเข้าไปพักอาศัยอยู่ด้วยฝูงงูก็ยอมให้เม่นเข้าไปอาศัยร่วมอยู่ได้

นิทานอีสปสำหรับเด็กเรื่องเม่นกับงู
แต่ไม่นานหลังจากนั้น พวกงูก็พบว่า…
เม่นสร้างความลำบากให้กับมันเป็นอย่างมาก
เพราะขนเม่นอันแหลมคม…
ต้องทำให้มันได้รับความเจ็บปวดยามเลื้อยคลานไปบนพื้นอยู่เนืองๆ
ในที่สุด พวกงูก็เอ่ยกับเม่นว่า
“พอกันที…ข้าทนไม่ไหวแล้ว ขอให้ท่านออกไปจากรังของเรา
ให้พวกเราได้อยู่กันอย่างมีความสุขเสียที”
“เป็นไปไม่ได้หรอก” เม่นกล่าวแย้ง
“ในเมื่อข้าอยู่ที่นี่ก็มีความสุขดีอยู่แล้ว
ถ้าใครในพวกเจ้าไม่พอใจที่จะอยู่กับข้า ก็ให้ออกไปเสียสิ!”
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
1. การเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่แก่ผู้ใด ควรพิจารณาลักษณะนิสัยของผู้นั้นให้ถ่องแท้เสียก่อน
2. ควรหลีกหนีคนที่มีนิสัยพาลหรือคนเห็นแก่ตัว ที่มักไม่คำนึงถึงความเดือดร้อนของผู้อื่น

เรื่องฝูงนกกับแรดใจร้าย

นิทานอีสป เรื่องฝูงนกกับแรดใจร้าย

กาลครั้งหนึ่งในป่าแห่งหนึ่ง มีนกจำนวนมากมาอาศัยสร้างรังอยู่บนต้นไม้

นกหลายชนิดที่อาศัย ณ ที่นี้มักจะทะเลาะเบาะแว้งกันเป็นประจำ
ในวันหนึ่งมีแรดตัวหนึ่งเดินเข้ามาในป่าแถบนั้น
มันเห็นว่ามีนกมากมายอาศัยอยู่บนต้นไม้

นิทานอีสปพร้อมภาพประกอบฝูงนกกับแรดใจร้าย
แรดผู้กำลังหิวจึงเอานอของมันกระแทกไปยังต้นไม้ต้นหนึ่ง
จนรังของนกสีเขียวที่อยู่บนต้นไม้นั้นตกลงมา
จากนั้นมันจึงกินลูกนกตัวเล็กๆ …ที่อยู่ในรังนั้น
แม่นกสีเขียวโกรธมาก…แต่มันไม่สามารถทำอะไรแรดตัวนั้นได้
เมื่ออิ่มจากการกินลูกนกแล้ว…แรดก็เดินจากไป

นิทานอีสปเรื่องฝูงนกกับแรดใจร้าย
บรรดานกทั้งหมดจึงพร้อมใจกันมาประชุม…หารือกัน
นกสีแดงออกความเห็นว่า
“แรดตัวนี้จะต้องหวนกลับมาอีกแน่นอน…พวกเราต้องร่วมมือกันขับไล่มันไป”
แต่นกสีเขียวแย้งว่า “ไม่เอาหรอก…แรดตัวนั้นใหญ่โตและแข็งแรงนัก”
“ใช่ๆ พวกเราคงทำอะไรมันไม่ได้หรอก” นกสีเหลืองเห็นด้วย

ด้วยเหตุที่นกเหล่านี้…ชอบขัดแย้งกันอยู่เป็นประจำ
พวกมันจึงไม่เห็นด้วย…กับข้อเสนอของนกสีแดง
ทำให้ไม่มีใครเตรียมรับมือกับแรดตัวนั้นเลย…

นิทานอีสปสำหรับเด็กฝูงนกกับแรดใจร้าย
เมื่อไม่มีใครเห็นด้วย…นกสีแดงสามีภรรยาจึงปรึกษากันว่า
“เราคงต้องช่วยตัวเองแล้วล่ะทีนี้”
ว่าแล้วทั้งสองก็ช่วยกันย้ายรังของมัน…ไปอยู่บนต้นไม้ที่สูงขึ้นไปบนหน้าผา
ซึ่งแรดไม่มีทางไปถึงได้เลย…

นิทานอีสปก่อนนอนฝูงนกกับแรดใจร้าย
วันรุ่งขึ้น แรดตัวเดิมก็กลับมาอีก
คราวนี้มันเอานอของมันชนกระแทกไปยังต้นไม้…ที่นกสีเหลืองอาศัยอยู่
ทำให้รังของนกสีเหลืองตกลงมา…
จากนั้นมันจึงวิ่งชนต้นไม้อื่นๆ…อีกหลายต้น
ลูกนกและไข่ในรังที่ร่วงหล่นลงมา…ล้วนตกเป็นอาหารของแรดจนหมดสิ้น

นิทานก่อนนอนสอนใจฝูงนกกับแรดใจร้าย

บรรดาพ่อแม่นกต่างพากันเสียใจ…
ที่ไม่คิดหาทางรับมือกับแรดตัวนี้ไว้เสียแต่แรก
ในขณะเดียวกันครอบครัวของนกสีแดงที่เตรียมการป้องกันไว้ล่วงหน้าแล้ว
กลับมีชีวิตอยู่อย่างปลอดภัย…

นิทานอีสปสั้นๆฝูงนกกับแรดใจร้าย
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
“ผู้ที่ระมัดระวังตัวจะปลอดภัยจากอันตรายต่าง ๆ” 

เรื่องหมาป่าในรางหญ้า

นิทานอีสป เรื่องหมาในรางหญ้า  

หมาตัวหนึ่ง มันชอบแอบเข้าไปงีบหลับอยู่ในรางหญ้าของโรงนาอยู่เสมอ

มันได้กระโดดเข้าไปในรางหญ้าของวัวแล้วก็ขดตัวลงบนฟางในรางนั้น
แต่ไม่นานเท่าไหร่วัวก็กลับมาจากการทำงานในตอนบ่าย
ก็ได้เข้ามาที่รางหญ้าเพื่อต้องการกินฟางข้าว 

นิทานอีสปสำหรับเด็กหมาในรางหญ้า
เจ้าหมาสะดุ้งตื่น มันรู้สึกโกรธเดือดดาลเป็นอย่างมาก
มันยืนเห่าวัว และเมื่อวัวเข้าใกล้มันก็ทำท่าจะกัด
ลุกขึ้นแยกเขี้ยวเห่าไล่วัว ไม่ให้กินหญ้า

นิทานอีสปสั้นๆก่อนนอนหมาในรางหญ้า
วัวจึงพูดด้วยความอดกลั้นว่า
“เจ้าหมาเกเร แม้แต่หญ้าที่เจ้าไม่กิน เจ้าก้ยังขัดขวางไม่ให้ข้ากินอีกรึ”
สุดท้ายวัวจึงเดินออกไปจากที่ตรงนั้น
แล้วไปกินฟางข้าวในรางอื่นรอบๆโรงนาแทน

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า

“คนนิสัยพาล…มักขัดขวางให้ผู้อื่นเดือดร้อนเสมอ

เรื่องหมาป่าอกตัญญู

นิทานอีสป เรื่องหมาป่าอกตัญญู

ในตอนเย็นใกล้พลบค่ำ เด็กเลี้ยงแกะเมื่อเสร็จจากการดูแลฝูงแกะเรียบร้อยแล้ว

จึงต้อนฝูงแกะของตนกลับลงมาจากภูเขา
“เฮ้…ใครก็ได้ช่วยที…ช่วยด้วย” เสียงนั้นดังออกมาจากหลุมลึกหลุมหนึ่ง
เมื่อเด็กเลี้ยงแกะมองลงไปในหลุม เขาก็พบว่ามีหมาป่าตัวหนึ่ง
กำลังพยายามกระโดดขึ้นมาจากหลุมหลายต่อหลายครั้ง
พร้อมๆไปกับร้องขอความช่วยเหลือไปด้วย
” นั่นหมาป่านี่…ท่านกำลังทำอะไรอยู่หรือ!” เด็กเลี้ยงแกะตะโกนถาม

 นิทานอีสปพร้อมภาพประกอบหมาป่าอกตัญญู
“เจ้าเด็กเลี้ยงแกะนี่, มาพอดีเลย ได้โปรดช่วยเหลือข้าหน่อยสิ”
“ไม่เอาหล่ะ, เดี๋ยวถ้าเราช่วยท่านแล้ว ท่านก็คงจะมาจับพวกแกะของเรากินเสียน่ะสิ”
“ไม่หรอก ถ้าเจ้าช่วยข้า ข้าสัญญาว่าจะไม่จับแกะของเจ้ากินอย่างแน่นอน”
เด็กเลี้ยงแกะจึงไปที่ขอบหลุมแล้วเอาเชือกผูกที่ขาหน้าของเจ้าหมาป่า
จากนั้นเขาก็พยายามดึงมันขึ้นมาอย่างสุดความสามารถ แต่เชือกนั้นเกิดขาดจากกัน
“ปึ๋งงง…โอ๊ะ…โอ้ย ๆ”
หมาป่าก็เลยเป็นอันต้องตกลงไปกระทบเข้ากับพื้นด้านล่างหลุมอีก

 นิทานอีสปสำหรับเด็กหมาป่าอกตัญญู
ต่อมาเด็กเลี้ยงแกะได้ไปยืนที่ขอบหลุมแล้วใช้มือของเขาจับขาหน้าของหมาป่าเอาไว้
แล้วดึงมันขึ้นมา จึงสามารถดึงหมาป่าให้ขึ้นมาจากหลุมได้
และเมื่อสุนัขจิ้งจอกขึ้นมาจากหลุมได้แล้ว มันก็เปลี่ยนไปในทันที
คือไม่สำนึกถึงบุญคุณของเด็กเลี้ยงแกะเลยสักนิด
แถมยังอ้าปากอันใหญ่ของมัน ที่มีเขี้ยวอันน่ากลัว
” เจ้าผูกขาของข้าด้วยเชือกแล้วยังไม่พอ ยังพยายามที่จะฆ่าข้า
ด้วยการแกล้งทำให้เชือกขาด ทำให้ข้าต้องตกลงไปกระแทกกับพื้นในหลุมอีกด้วย”
พูดไม่พูดเปล่า มันยังทำท่าจะกระโจนเข้าใส่เด็กเลี้ยงแกะอีกด้วย

 นิทานอีสปสั้นๆหมาป่าอกตัญญู
“อ้ายเด็กเลวคนนี้มันเป็นคนที่ทำให้ข้าต้องตกลงไปกระแทกกับพื้นหลุม
ด้วยการตัดเชือกที่ผูกขาหน้าของข้าเอาไว้”
หลังจากนั้น ลิงจึงเอ๋ยขึ้นว่า
“ไหนลองทำเหมือน ๆ กับสถานการณ์ตอนนั้นอย่างที่เจ้าพูดให้ดูอีกครั้งได้ไหม?
…เพื่อจะได้เป็นการยืนยัน ตามข้อเท็จจริงยังไง”
“ได้เลย จะได้รู้กันว่าข้านั้นเป็นผู้ที่ถูกต้อง” ว่าแล้วเจ้าหมาป่า…ก็กระโดดลงไปในหลุมทันที

 นิทานอีสปก่อนนอนหมาป่าอกตัญญู
หมาป่าก็พูดว่า ” นี่…แล้วเอาเชือกนั่นมามัดขาหน้าของข้าด้วยสิ เดี๋ยวนี้เลย”
หลังจากที่ได้มัดขาหน้าของหมาป่าเอาไว้ และได้ทำท่าเป็นดึงมันขึ้นมา
เด็กเลี้ยงแกะก็ปล่อยมือที่ถือเชือกนั้นในทันที
“โอ๊ยเจ็บ…เห็นหรือยังล่ะเจ้าลิง…
ว่าข้าต้องได้รับกับสิ่งที่ย่ำแย่มากอย่างที่เจ้าได้เห็นนี่แหละ”  หมาป่ากล่าว
“เราเข้าใจแล้วล่ะ อ้ายหมาป่าเนรคุณ
เชิญเจ้าอยู่ที่นั่น ไปตลอดกาลเลยล่ะกัน ลาก่อน…” ลิงกล่าว
ว่าแล้วเด็กเลี้ยงแกะกับลิงก็เดินร้องเพลงออกจากที่นั้นกันไปในที่สุด…

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
“เมื่อได้รับความช่วยเหลือจากใครแล้ว…หากลืมความเมตตานั้นไปเสีย…
ก็คงไม่มีใครที่จะคิดช่วยเหลือท่านอีกครั้งอย่างแน่นอน” 

เรื่องหนูเมืองกับหนูชนบท


นิทานอีสป เรื่องหนูเมืองและหนูชนบท

หนูนาตัวหนึ่งอาศัยอยู่ในชนบทมันชอบกินผลไม้ มันอยู่อย่างมีความสุขวันหนึ่งญาติของหนูนามาเยี่ยมจากในเมืองหนูนารวบรวมผลไม้มากมายไว้ให้หนูบ้านกินแต่หนูบ้านไม่ชอบกินผลไม้หนูบ้านบอกว่า “อาหารพวกนี้น่าเบื่อเหลือเกิน”“เธอเข้าไปในเมืองกับฉันเถอะ…ชีวิตในเมืองสนุกสนานกว่าที่นี่มากนัก”
นิทานอีสปพร้อมภาพประกอบหนูเมืองและหนูชนบท
ดังนั้นหนูนาจึงติดตามญาติของมันเข้าไปในเมืองพวกมันเดินทางมาถึงบ้านใหญ่หลังหนึ่ง
พวกมันมุดลอดใต้ประตูหลังบ้านเข้าไปในบ้านหนูบ้านพาหนูนาเข้ามาในห้องรับประทานอาหาร
บนโต๊ะอาหารมีอาหารวางอยู่มากมายพวกมันเริ่มกินอาหารเป็นการใหญ่หนูนารู้สึกมีความสุข มันพูดว่า
“อาหารพวกนี้ช่างอร่อยเหลือเกิน!”
นิทานอีสปสำหรับเด็กหนูเมืองและหนูชนบท
ทันใดนั้นมีเสียงบางอย่างดังแว่วเข้ามาหนูทั้งสองวิ่งไปหลบซ่อน อยู่หลังกองอาหาร
หนูบ้านบอกหนูนาว่า “อยู่เฉย ๆ ไว้น่ะ”หนูนารู้สึกกลัวมากแมวตัวหนึ่งเดินเข้ามาในห้องอาหาร มันหันไปมองรอบๆห้องแมวตัวนั้นกระโดดขึ้นไปบนโต๊ะอาหาร
นิทานอีสปสั้นๆหนูเมืองและหนูชนบท
หนูบ้านร้องว่า “วิ่งหนีเร็ว!” หนูทั้งสองวิ่งเข้าไปในรูหนูหนูนาพูดกับหนูบ้านว่า “ลาก่อนน่ะ ญาติที่รัก”
เจ้าหนูนาเอ่ย “เฮ้ย ทำไมรีบกลับนักล่ะ”“อืมม์” เจ้าหนูนาตอบ…“ข้าขอยอมกินถั่วในความสงบ…ดีกว่ากินเค้กในความหวาดกลัวแบบนี้…ข้าขอกลับไปใช้ชีวิตที่ท้องทุ่งอย่างเดิมดีกว่า”
นิทานอีสปสอนใจหนูเมืองและหนูชนบท
นิทานเรื่องสอนให้รู้ว่า
“มีชีวิตสงบสุขปลอดภัย…ดีกว่าสุขสบาย…แต่ต้องหวาดหวั่น…เต็มไปด้วยอันตราย”

สุนัขจิ้งจอกกับเงา

นิทานอีสป เรื่องสุนัขจิ้งจอกกับเงา

เย็นวันหนึ่งเวลาใกล้พลบค่ำ ดวงอาทิตย์เป็นสีแดงเลือดหมูกำลังจะลับขอบฟ้า
ได้มีสุนัขจิ้งจอกตัวหนึ่ง…เดินมาตามถนน
ซึ่งมันเดินหันหลังให้กับดวงตะวันที่กำลังจะตกดิน
ทันใดนั้นเมื่อมันรู้สึกประหลาดใจมาก

เมื่อเห็นเงาของตัวเองบนพื้น… เงาดำทึบ ยาวและใหญ่
อันเนื่องจากแสงอาทิตย์ปรากฏบนถนน และเคลื่อนที่ไปพร้อมกับตัวของสุนัขจิ้งจอก
มันแปลกใจกับเงาของตัวมันเองเป็นอย่างมาก
และเงานั้นก็ดูเหมือนกับว่าได้เดินนำหน้ามันไปตลอดเสียด้วยสิ
”ว้าว…มันชั่งเป็นเงาที่ใหญ่โตมากเลยนะเนี่ย“

นิทานอีสปสำหรับเด็กเรื่องสุนัขจิ้งจอกกับเงา
”หากเงาของข้าใหญ่ขนาดนี้ ก็หมายความว่า ตัวของข้าเองนั้น
ก็จะต้องใหญ่เหมือนกันด้วยน่ะสิ” มันเกิดความคิดที่หยิ่งผยองขึ้นมา
และเริ่มออกเดินต่อไปเรื่อย ๆ
ต่อมามีเสือตัวใหญ่มากตัวหนึ่ง ออกมาปรากฏตัวขึ้นที่ตรงหน้าของสุนัขจิ้งจอก
และได้หยุดยืนนิ่งอยู่ที่ตรงเงามันพอดี

นิทานอีสปพร้อมภาพประกอบสุนัขจิ้งจอกกับเงา
เจ้าสุนัขจิ้งจอกเมื่อเห็นเช่นนั้นจึงเปรียบเทียบขนาดของเงาตัวเองกับเสือตัวนั้น
พร้อมเอ๋ยขึ้นว่า
“จากที่ข้าดูแล้วนะ..เจ้าตัวเล็กกว่าข้ามาก ฉะนั้นข้าจึงไม่จำเป็นต้องกลัวอะไรทั้งสิ้น”
สุนัขจิ้งจอกยังพูดแบบหยิ่งยโสต่ออีกด้วยว่า
”เฮ้…เจ้าเสือน้อย…คุกเข่าลงต้อนรับข้าเดี๋ยวนี้นะ…จนกว่าข้าจะเดินผ่านไป”

นิทานอีสปสั้นๆเรื่องสุนัขจิ้งจอกกับเงา
”ก้าววว! อัายสุนัขจิ้งจอกผอมแห้ง ถึงแม้ว่าเมื่อก่อนนี้
ข้าจะเคยคิดว่าหากกินเอ็งเข้าไปคงจะไม่อร่อย
แต่ตอนนี้ข้าไม่อาจที่จะยกโทษให้เอ็งได้เสียแล้วสิ ก้าววว”
สุนัขจิ้งจอกจึงต้องพบกับจุดจบคือถูกเสือกินเป็นอาหาร
ที่เกิดจากมันสำคัญผิด…คิดหลงไปกับเงาของตัวมันเอง

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
“การหลงตัวเองคิดว่ายิ่งใหญ่เหนือใครๆนั้น…อาจนำมาซึ่งความล้มเหลวในภายหลังได้”

เรื่องค้างคาวเลือกพวก

นิทานเด็ก นิทานก่อนนอน นิทานเรื่องสั้น นิทานอีสป นิทานพร้อมภาพประกอบ เรื่องค้างคาวเลือกพวก   กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีค้างคาวตัวหนึ่งมันถือว่าตนมีปีกเหมือนนกเเละก็มีหูเหมือนสัตว์อื่นทั่วๆ ไปดังนั้นเมื่อนกยกพวกไปต่อสู่กับสัตว์อื่นๆ ค้างคาวก็ขอตัว…ไม่เข้าข้างฝ่ายใดโดยทำตัวเป็นกลาง
นิทานก่อนนอน นิทานอีสปสอนใจ ค้างคาวเลือกพวก
เเต่พอเมื่อพวกนกนั้นมีท่าทีว่าจะชนะ…ค้างคาวก็จะประกาศตัว แล้วไปเข้าข้างกับฝ่ายนกทันทีต่อมาพวกนกกำลังพลาดท่าเสียทีเเก่สัตว์อื่นๆ…ค้างคาวก็ผละจากฝ่ายนกไปเข้าพวกกับสัตว์อื่นๆ
ต่อมาพวกนกต่อสู้จนใกล้จะได้รับชัยชนะ…ค้างคาวก็กลับมาอยู่กับพวกนกอีก
นิทานเด็ก นิทานอีสป เรื่องค้างคาวเลือกพวก
เมื่อนกกับสัตว์อื่นๆ ทำสัญญาสงบศึกเเละเป็นมิตรต่อกันสัตว์ทั้งหลายต่างก็พากันขับไล่ค้างคาว ไม่ยอมให้เข้าพวกด้วยค้างคาวอับอายจึงต้องไปซ่อนตัวอยู่ในถ้ำ…และจะออกจากถ้ำไปหา อาหาร ในตอนกลางคืนเท่านั้น
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
ผู้ที่ขาดความจริงใจ…ไม่มีใครอยากคบหาด้วย

วันพุธที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

เรื่องสิงโตกับกะต่ายป่า

นิทานอีสปพร้อมภาพประกอบเรื่องสิงโตกับกระต่ายป่า
เย็นวันหนึ่ง มีสิงโตตัวหนึ่งตื่นจากการหลับใหลด้วยความหิวโหย
มันเดินเข้าไปในป่าเพื่อหาอาหาร และเพราะมันหิวมาก
มันจึงพร้อมที่จะจับทุกอย่างกินเป็นอาหาร
ทันใดนั้น สิงโตตัวนั้นก็เห็นกระต่ายป่าตัวหนึ่งกำลังวิ่งอยู่บริเวณนั้น
สิงโตวิ่งไปด้านหลังกระต่ายป่า
และมันก็จับกระต่ายน้อยตัวนั้นได้ ในเวลาต่อมา
นิทานอีสปสำหรับเด็กเรื่องสิงโตกับกระต่ายป่า
ในขณะที่มันกำลังจะกินกระต่ายป่า มันก็เหลือบไปเห็นกวางตัวหนึ่ง
และเพราะความตะกละของมัน สิงโตจึงคิดว่า…
มันควรกินกวางตัวใหญ่มากกว่าที่จะกินกระต่ายป่าตัวนี้
เมื่อคิดเช่นนั้น เจ้าสิงโตจึงทิ้งกระต่ายป่าที่จับได้…แล้วหันกลับไปจับกวาง
แต่กวางวิ่งหนีสุดชีวิตเท่าที่มันจะวิ่งได้
และสิงโตก็ไม่สามารถวิ่งไล่จับมันทัน
นิทานอีสปสอนใจเรื่องสิงโตกับกระต่ายป่า
ในที่สุด สิงโตก็ต้องหยุดวิ่ง เพราะความเหนื่อยอ่อน
มันพูดกับตัวเองว่า “ข้ากลับไปกินกระต่ายป่าดีกว่า”
มันรีบกลับไปยังกระต่ายป่า…
แต่เมื่อไปถึง…กระต่ายป่าตัวนั้นก็…ได้หายไปแล้ว
สิงโตรู้สึกเสียใจมาก เพราะความตะกละของตัวมันเองแท้ ๆ
ถึงตอนนี้มันไม่เหลืออะไรให้กินเป็นอาหารอีก…
แม้กระทั่งกระต่ายป่าตัวน้อยก็ตาม!
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
“จงพอใจ…ในสิ่งที่ตนเองมีอยู่”

เรื่องขี้เหล้าเล่นหม้อ

นิทานพื้นบ้านภาคอีสาน เรื่องนี้เป็นนิทานพื้นบ้านหนองฮังกา (ปัจจุบันขึ้นกับบ้านแสงอินทร์) ต.กระเบื้อง อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ เป็นนิทานที่เล่าสืบต่อกันมาและได้แง่คิดสอนใจดีๆ
นานมาแล้วมีเศรษฐีผู้ใจบุญท่านหนึ่ง แกชอบทำบุญเป็นชีวิตจิตใจ ขอให้ได้ทำบุญแก่จะทำทุกอย่าง คนอีสานพูดไว้ว่า แฮงให้ แฮงรวย แฮงให้ แฮงได้หลาย คือ ยิ่งให้ ยิ่งรวย ยิ่งให้ ยิ่งได้…ได้เยอะเพราะคนตอบแทนกับการให้ของเรา รวมคือรวยน้ำใจไปไหนคนรักคนอารีย์กับไมตรีจิตของเรา ยิ่งให้ก็ยิ่งได้มาก…เศรษฐีผู้ใจบุญ มีลูกชายคนเดียวไม่เอาถ่าน ลูกเมียก็ไม่มี ลูกชายเศรษฐีเอาอย่างเดียวคือกินเหล้า กินแล้วก็กินอีก กินจนติด เพื่อนฝูงก็มาก เพราะรวยมีเงินเลี้ยงคนอื่นเพื่อต้องการความเป็นเพื่อนแค่นั้นเอง ส่วนเพื่อนทั้งหลายก็หลอกกินฟรีไปวันๆ
นิทานพื้นบ้านภาคอีสาน เรื่องขี้เหล้าเล่นหม้อ
หลายปีต่อมา เศรษฐีใจบุญตายลง ลูกชายเศรษฐีเป็นผู้รับมรดกแต่เพียงผู้เดียว เขาไม่สนใจการบริหาร ไม่รู้จักรักษาทรัพย์ที่พ่อแม่ให้ไว้ ดื่มกินจนเมามาย ไม่นานฐานะความเป็นอยู่ของเขาก็จนลง ไม่มีที่อยู่อาศัย ขอทานเขากินไปวัน ๆ ความทุกข์ยากอย่างแสนสาหัสเริ่มเข้ามาแทนที่ เขาไปหาเพื่อนที่ไหนก็ไม่มีใครให้กิน ความทุกขเวทนามีมากยิ่งขึ้น ด้วยเดชะบุญกุศลของเศรษฐีผู้ใจบุญที่ตายไปแล้ว จึงได้ไปเกิดเป็นเทวดาผู้ใหญ่ในสวรรค์ ด้วยความเป็นห่วงลูก จึงใช้ตาทิพย์มองมายังพื้นโลก เห็นลูกชายของตนได้รับทุกขเวทนายิ่งนัก หัวอกผู้เป็นพ่อให้สลดหดหู่ยิ่งนัก ด้วยความเป็นห่วงลูก เทวดาผู้เป็นใหญ่นั้นจึงได้ลงมาหาลูกของตน สอนให้ลูกรู้จักทำมาหากินและให้รู้จักประหยัดเมื่อมีเงิน
ลูกชายเมื่อฟังแล้วก็รับปากว่า จะกลับตัวเป็นคนดี จะเลิกเหล้าเด็ดขาด เขาบอกกับเทวดาผู้เป็นใหญ่ซึ่งเป็นพ่อของเขาว่า เขาจะเริ่มต้นอย่างไร เขาไม่มีทุนรอนอะไร เทวดาผู้เป็นพ่อจึงส่งหม้อดินให้เขาใบหนึ่ง แล้วบอกว่า เจ้าจงรักษาหม้อดินนี้ให้ดี หากเจ้าต้องการเงินทอง เจ้าก็เอามือล้วงเข้าไปหยิบมาใช้ได้ดั่งใจคิด แต่มีข้อแม้ว่าอย่าทำแตก …ลูกชายเศรษฐีก็รับคำพ่อ เช้าของวันรุ่งขึ้น ลูกชายเศรษฐีขี้เหล้า ก็เอามือล้วงดูว่าที่พ่อบอกนั้นจะจริงหรือเปล่า เป็นที่อัศจรรย์ยิ่งนัก มือเขาสัมผัสกับเงินทองมากมาย…เขาอดเหล้าได้เพียงครึ่งวันเท่านั้น ก็ลืมคำพ่อที่สั่งสอนเสียสิ้น …เขากลับมาดื่มกินอย่างหนัก
วันหนึ่งเขากินเหล้าแล้วก็เดินทางไปหาเพื่อน ระหว่างทางเขานึกสนุกขึ้นมา จึงได้โยนหม้อขึ้นสูงๆ แล้วก็วิ่งไปรับ ปากก็พูดว่า “โอะ ๆ โอะ…โอะร่วง” พอรับหม้อได้เขาก็โยนใหม่ แล้วก็วิ่งไปรับ ปากก็พูดว่า “โอะ ๆ โอะ โอะร่วง” เขาทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ในระหว่างเดินทาง แล้วก็วิ่งไปรับ ปากก็พูดว่า “โอะ ๆ โอะ โอะร่วง” คราวนี้หม้อในมือเขาเกิดร่วงจริงๆ หม้อใบนั้นจึงแตก … ขี้เหล้าตกใจมาก…เขาคิดถึงคำพ่อที่บอกไว้ เขารู้สึกเสียใจในการกระทำของตัวเองมาก…เขาไม่มีโอกาสอีกแล้วในชีวิตนี้…เขาไม่ได้ล้วงเงินทองในหม้อเก็บไว้ เพื่อไว้ใช้จ่ายในวันข้างหน้าเลย เขาไม่ได้เก็บเงินไว้เพื่อเป็นค่ารักษาพยาบาลตนเองเลย เขาไม่มีเงินสำรองอะไรทั้งสิ้น …หมดแล้วทุกอย่าง!!!

เรื่องหญิงรีดนมวัวผู้เพ้อฝัน

Aesop’s Fables: The Milkmaid and Her Pail – นิทานเรื่องสั้น นิทานเด็ก นิทานก่อนนอน นิทานอีสปสั้นๆ นิทานภาษาอังกฤษพร้อมแปลไทย เรื่องหญิงรีดนมวัวผู้เพ้อฝัน
นิทานภาษาอังกฤษ นิทานก่อนนอน หญิงรีดนมวัวผู้เพ้อฝัน
Patty the Milkmaid was going to market carrying her milk in a pail on her head. 
แพทตี้ หญิงรีดนมวัว เธอทูนถังนมวัวไว้บนศรีษะและกำลังจะนำมันไปตลาด
As she went along, she began calculating what she would do with the money she would get for the milk. I’ll buy some fowls from Farmer Brown,” said she, “and they will lay eggs each morning, which I will sell to the parson’s wife.
ขณะที่เธอเดินไป เธอก็เริ่มคำนวณว่าจะทำอะไรกับเงินที่ได้จากนมถังนี้ “ฉันจะซื้อเป็ด-ไก่จากชาวไร่ที่ชื่อบราวน์” เธอกล่าว “และไก่พวกนั้นจะออกไข่ทุกเช้า ฉันจะขายไข่พวกนั้นให้กับเหล่าแม่บ้าน”
นิทานภาษาอังกฤษ นิทานอีสปสั้นๆ หญิงรีดนมวัวผู้เพ้อฝัน
With the money that I get from the sale of these eggs, I’ll buy myself a new dimity frock and a chip hat; and when I go to market, won’t all the young men come up and speak to me! 
“เงินที่ได้จาการขายไข่ฉันจะซื้อชุดผ้าฝ้ายสักชุดกับหมวกสักใบ และเมื่อฉันไปถึงตลาด พวกหนุ่มๆทั้งหลายก็จะเข้ามาพูดคุยกับฉัน
นิทานภาษาอังกฤษ นิทานอีสป หญิงรีดนมวัวผู้เพ้อฝัน
Polly Shaw will be so jealous; but I don’t care. I shall just look at her and toss my head like this. “As she spoke that, she tossed her head back and the pail fell off it, and all the milk was spilt! 
พอลลี่ ชอว์จะต้องอิจฉาฉัน แต่ฉันจะไม่สนใจ ฉันจะมองหล่อนแล้วเชิดอย่างนี้ “ขณะที่เธอกำลังพูดเธอก็สะบัดหัวของเธอตาม ทำให้ถังนมบนหัวของเธอตกลงมาและทำให้นมทั้งหมดหก
So she had to go home and tell her mother what had occurred. “Ah, my child,” said the mother: “Do not count your chickens before they are hatched”
ดังนั้นเธอจึงกลับบ้านแล้วเล่าสิ่งที่ได้เกิดขึ้นให้แม่ของเธอฟัง “โอ้! ลูกรัก “แม่เธอพูด “อย่านับจำนวนไก่ของลูก…ก่อนที่มันจะถูกฟักเป็นตัว”
นิทานภาษาอังกฤษ นิทานเด็ก หญิงรีดนมวัวผู้เพ้อฝัน
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า (Moral of the story)
Building castles in the air will not stand.
“การสร้างวิมานในอากาศ (แต่ไม่ลงมือทำ) …ไม่มีทางเป็นจริงได้”
คำศัพท์ (Vocabulary)
Milkmaid = (n.) หญิงรีดนมวัว
Begin = (VI) เริ่มต้น, เริ่ม (Began เป็นกริยาช่องที่ 2 ของ begin)
Pail = (n.) ถัง
Calculate = (v.) คำนวณ
Fowl = (n.) สัตว์ปีกพวกเป็ดไก่
Dimity = (n.) ผ้าฝ้าย
Frock = (n.) เสื้อผ้าของผู้หญิง
Jealous = (adj.) อิจฉา
Toss = (v.) เคลื่อนไปมา
Before = (con) ก่อน, ก่อนที่, ข้างหน้า, ในอนาคต
Hatch = (vi.) ออกจากไข่, ฟักออกมา (Hatched เป็นกริยาช่องที่ 2 ของ Hatch)
Building = (n.) การสร้าง, การก่อสร้าง
Castles = (n.) ปราสาท
Castle in the air = (n.) วิมานในอากาศ, See also: ฝันกลางวัน

แมวกับคนใจคด

      เรื่อง แมวกับคนใจคด 
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว…
นิทานเด็ก เรื่องแมวกับคนใจคด
มีหญิงชราคนหนึ่งไม่มีลูกหลาน
อาศัยอยู่ในบ้านเพียงลำพัง
บ้านของเธอนั้นใหญ่โตกว้างขวางมาก
จนหญิงชราไม่สามารถดูแลได้อย่างทั่วถึง
กระทั่งพวกหนูมากัดทำลายข้าวของ
จนเสียหายทุกวัน
นิทานก่อนนอน แมวกับคนใจคด
หญิงชราทนความรำคาญไม่ไหว
จึงไปขอร้องแมวตัวหนึ่งให้มาอยู่ด้วย
และสัญญากับแมวว่าถ้าแมวช่วยจับหนู
ให้หมดบ้าน นางจะให้แมวอยู่ด้วยจนชั่วชีวิต
แมวนั้นดีใจมาก มันจึงออกจับหนูทุกวันไม่ได้หยุด
จนกระทั่งหนูออกไปจากบ้านหญิงชราจนหมด
นิทานก่อนนอน นิทานเด็ก แมวกับคนใจคด
วันหนึ่ง…ขณะที่แมวกำลังนอนหลับอย่างสบายอารมณ์อยู่นั้น
มันก็ต้องสะดุ้งสุดตัวเพราะหญิงชรา
ได้หวดไม้เรียวลงมาบนตัวของมันอย่างแรง
เจ้าจับหนูหมดแล้ว ก็ไม่มีประโยชน์กับข้าอีกต่อไป…
ออกไปจากบ้านของข้าได้แล้วเจ้าแมวขี้เกียจ
หญิงชราตวาดแมว…
แมวจำใจออกจากบ้านของหญิงชรา ด้วยความเจ็บแค้น
นิทานก่อนนอน เรื่องสั้น แมวกับคนใจคด
เมื่อพวกหนูรู้ข่าวว่าบ้านของหญิงชราไม่มีแมวแล้ว
ก็พากันอพยพกลับมาใหม่
หญิงชราจึงออกไปหาแมวและพูดอ้อนวอนให้แมวกลับมาอยู่อีก
พอที!!!…นางใจร้าย…
ข้าจะไม่ยอมช่วยเหลือ…คนที่ไม่มีสัจจะอย่างเจ้าอีกแล้ว"
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
ผู้ที่ไร้สัจจะ…แม้แต่สัตว์เดรัจฉานก็ยังไม่อยากเป็นมิตรด้วย